บทที่ 4 หมดสิ้นแล้ว
เสียงสวดมนต์พึมพำภายในบ้าน อามายืนมองดวงจันทร์ที่มืดมิดแล้ว ปลุกลูกสาวที่หลับอยู่ เงินม้วนใหญ่กว่าทุกครั้งถูกพันซุกเอาไว้ในกระเป๋าเสื้อผ้า ก่อนจะส่งให้กับลูกสาวเพียงคนเดียว
“พรุ่งนี้ไปโรงเรียน เอาถุงผ้าที่อามาเตรียมให้ไปด้วยนะ เข้าใจไหม “ อามาบอกให้ลูกสาวรับปาก ก่อนจะดันตัวให้นอนลงไปตามเดิม
น้ำตาคนเป็นแม่ร่วงรินไม่ขาดสายแล้วจัดการงานที่เหลือก่อนจะถึงรุ่งเช้า
คนงานในหมู่บ้านหลายคนเตรียมพร้อมแล้ว อาซอพาลูกชายทั้งหมดขึ้นรถ เพื่อจะเตรียมตัวทำการบางอย่าง ผู้เฒ่ามองครอบครัวที่ทำคิดการใหญ่แล้วถอนหายใจออกมา ได้แต่หวังว่า ชะตาฟ้าลิขิต จะทำให้หนึ่งชีวิตอยู่รอดปลอดภัย
“วันนี้ไม่ต้องไปเรียนหรอพ่อ “ ลูกชายคนโตถามขึ้นมา เมื่อเห็นว่าพี่สาวเตรียมตัวเดินทางไปโรงเรียนเพียงลำพัง
“จะพาไปเที่ยว ไม่ต้องไปหรอก “ เสียงเด็กชายทั้ง4ร้องขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น ก่อนที่รถกะบะจะขับข้ามลงไปที่ถนนอีกเส้นหนึ่ง
ชายชุดดำหลายคนแบกถุงใหญ่ขึ้นหลัง พร้อมกองกำลังอารักขา สินค้าชุดนี้มีมูลค่านับสิบล้านทีเดียว คราวนี้ อาซอจะพาครอบครัว ข้ามกลับไปฝั่งโน้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่มีพร้อมทุกอย่าง ไม่หันกลับข้ามมาฝั่งนี้อีกแล้ว
“พาเด็กข้ามไปก่อนเอาเงินนี้ไปเตรียมการที่ฝั่งโน้นเข้าใจไหม อามา “ เสียงอาซอสั่งออกมาด้วยความเด็ดขาด ก่อนที่รีบพรางหน้าตัวเอง เดินปะปนไปกับชายชุดดำ
แม่ลูกสี่จูงมือลูกชายข้ามเรือข้ามฟากไป เด็กชายทั้ง4ต่างดีใจที่จะได้ไปเที่ยว แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าการออกไปครั้งนี้จะไม่มีวันได้กลับมาเหยียบแผ่นดินเกิดอีกแล้ว
อิง เดินหอบย่ามสะพายข้างมาถึงที่โรงเรียน ก่อนจะเปิดของข้างในดู ก็พบเสื้อผ้าและผ้าโพกหัวที่แม่ทอไว้ให้ ความนัยที่แม่เคยบอก
เฉลยหมดแล้ว เด็กหญิงวัยเพียงสิบสี่ปี ร้องไห้ออกมาปิ่มใจจะขาด เงินตั้งตัวที่แม่ทยอยให้มาเก็บไว้กับตัว เป็นสิ่งสุดท้ายที่อามาจะมอบให้ลูกสาวได้
“อามา จะหาอามา “ เสียงเด็กหญิงร้องไห้ออกมาเพียงลำพัง
คนขับรถที่ได้รับการว่าจ้างจากนายอำเภอให้มารับคุณหมอคนใหม่มารออยู่แล้ว ท่าทางของเด็กสาวที่ยืนเก้ๆกังๆต่างจากคนในพื้นที่เป็นที่สังเกตุได้ไม่ยาก
“สวัสดีครับ ผมชื่อแดงครับ มาจากบ้านนายอำเภอครับ “
“สวัสดีค่ะ หมอน้ำอิงค่ะ “ ชายวัยกลางคนมองคุณหมอที่มาจากกรุงเทพด้วยสายตาแปลกใจ นี่หมอแท้ไหม ทำไมเหมือนเด็กนักเรียนกันนี่
กระเป๋าเป้ใบใหญ่ และถุงกระสอบอีก1ใบ ที่นำมาถูกยกขึ้นรถกะบะ ก่อนที่รถจะขับออกจากเมืองมาเรื่อยๆจากถนนลาดยาง เป็นถนนลูกรัง และเป็นทางแคบๆระยะทางกว่าสองชั่วโมงเท่านั้น
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาเมื่อรถจอดสนิทตรงหน้าโรงพยาบาล คุณหมอลงจากรถแล้วกดรับสาย
“ถึงไหนแล้ว “
“ถึงแล้วจ้ะหมอฝ้าย ขอบใจนะ “
“คุณพ่อคุณแม่ลูกสาวถึงแล้วนะคะ สบายใจได้ “ เสียงเพื่อนรักตะโกนบอกคุณแม่และคุณพ่อก่อนจะถามกลับมา
“จัดบ้านให้เสร็จ ถ่ายรูปส่งไลน์มาดูด้วย แล้วห้ามหายไปนะ ถ้าจะเอาอะไรลิสต์มา จะจัดส่งตามไปทีหลัง เข้าใจไหมน้ำอิง “
เพื่อนสาวบอกด้วยความเป็นห่วงก่อนจะตัดสายไป
“ถึงแล้วครับหมอ บ้านพักอยู่ด้านหลังครับ “
น้ำอิงมองบ้านพักที่ไม่แย่เท่าไหร่นัก อย่างน้อยก็มีมุ้งลวด มีเหล็กดัด มีน้ำแม้จะไม่ค่อยใส มีไฟฟ้า และที่สำคัญมีสัญญาณโทรศัพท์และสัญญาน4G
เตียงนอนเก่ามาก จนน่ากลัวจะพังลงมาก่อนจะได้นอนถูกย้ายออกจากห้อง ภายในห้องสะอาดไร้ฝุ่นเพราะมีการแจ้งล่วงหน้าว่าจะมีหมอมาใหม่
ชุดเครื่องนอน กระทะไฟฟ้า และ กาน้ำร้อน ที่มุมห้องทำเอาหมอคนใหม่ถึงกับปล่อยโฮออกมา
กระดาษโน๊ตจากเพื่อนร่วมรุ่นเขียนถึงที่1ของรุ่นเป็นข้อความให้กำลังใจ
@ถ้าอยากได้อะไรบอกมา แล้วทางนี้จะส่งไปให้เร็วที่สุด @
@ตู้เย็นจะมาวันถัดไป มีตู้เสื้อผ้าด้วยนะน้ำอิง @
@อาหารแห้งส่งไปแล้ว น่าจะอยู่ที่โรงพยาบาล กินให้อร่อยนะอิง “
เธอรู้แล้วว่า เธอไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว เด็กหญิงที่ถูกปล่อยทิ้งเอาไว้ ได้รับความอบอุ่นใจจากคนจำนวนมากเหลือเกิน
“อามาอย่าห่วงเลย อิงเก่งอยู่แล้ว “
